
ฮอตสั่นรัวๆเลยทีเดียว"โจ" แม่สาย ประภาสะวัต เจ้าของฉายา"นักธุรกิจพันล้าน" ที่ช่วงนี้งานเข้าอย่างแรงส์!!ทั้งเรื่องกรณีที่ผู้คนในโลกออนไลน์ให้ความสนใจ "แท็กซี่ลัมโบกินี่"ที่ตกแต่งล้อเลียนเป็นแท็กซี่เขียว-เหลืองพร้อมเขียนข้างรถว่า TAXI HISO-LIFE ซึ่งมีการแชร์กันอย่างแพร่หลาย และต่อมาประสบเหตุเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ บริเวณถนนพระราม 9 เป็นเหตุทำให้กระจกมองข้างเสียหาย เมื่อหลายวันก่อน จนเกิดกระแสวิพากษณ์วิจารณ์ หลังผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Khanomcake Za ที่ระบุว่า เจ้าของรถแลมโบกินี่คันดังกล่าว ได้ลงมาตำหนิและต่อว่าคนขับรถจักรยานยนต์ อีกทั้งมีการตบใบหน้าของคู่กรณี
ต่อมาไฮโซหนุ่มคนดังในแวดวงสังคม โจ แม่สาย ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก "โจ แม่สาย ประภาสะวัต" แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของ "แท็กซี่ลัมโบกินี่" พร้อมชี้แจงว่ายอมรับว่าตบหน้าเด็กคนนั้นจริง เพราะโมโหที่ชนแล้วขับหนี หลังจากตักเตือนเด็กคนนั้นไปว่า ถ้าทำผิดก็ไม่ควรหนี แล้วตนก็ปล่อยเขาไป โดยไม่ได้เรียกค่าเสียหายแม้แต่บาทเดียว ต้องขอโทษด้วยครับ ตนคิดน้อยไปเอง
ยังไม่สิ้น "โจ"แม่สาย"ยังเจอข่าาวเป็นสารถีรับส่งนางเอก"ขวัญ"อุษามณี ไสทยานนท์อีกด้วย และเจ้าตัวยังเจอกระแสข่าวลือถูกพาดพิงหาว่ายักยอกทรัพย์!!
ล่าสุดวันนี้(18 มีนาคม 2558) "โจ"โร่ ร้องกองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท)แจ้งความเอาผิดกับเว็บไซด์ชื่อดัง ข้อหาหมิ่นประมาท โดยหาว่าถูกเว็บไซต์ดังกล่าวเขียนบทความที่หาว่าตนยักยอกทรัพย์ ทำให้เสียชื่อเสียง ซึ่งตนยอมไม่ได้
สำหรับกรณีทำร้ายร่างกายวินมอเตอร์ไซค์ เจ้าตัวพูดเหมือนที่เคยโพสต์ว่า ยอมรับตบหน้าไป1ครั้งเพราะโมโหที่คู่กรณีชนแล้วหนี ตอนนี้เรื่องจบแล้ว ต่างฝ่ายต่างยอมความ อีกทั้งโต้ว่าไม่ได้ตามจีบนางเอกสาว"ขวัญ" อุษามณี ไวทยานนท์ ย้ำไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวและไม่เคยเจอกันอีกด้วย
สำหรับข้อมูลคร่าวๆของ"โจ"แม่สาย ประภาสะวัต"นักธุรกิจพันล้าน"ใช้เวลาในการสร้างสมบัติภายในเวลา 5 ปี ในวัยแค่ 26 ปีเท่านั้น
ปัจจุบัน"โจ"แม่สาย เป็นเจ้าของธุรกิจติดตั้งแก๊สรถยนต์รายใหญ่ และมีอีกบทบาทหนึ่งคือการเป็นนายกสมาคมผู้ติดตั้งอุปกรณ์ใช้แก๊สสำหรับยานยนต์ และยังทำธุรกิจเกี่ยวกับจอแอลอีดีขนาดใหญ่ตามอาคารต่าง ๆอีกด้วย
"รถที่เอามาทำเป็นแท็กซี่มีที่มาคือเราทำรายการไฮโซไลฟ์ทางช่อง9 รายการมีคอนเซ็ปต์เกี่ยวกับชีวิตไฮโซ เลยจับความธรรมดากับไม่ธรรมดามารวมกันมันกลายเป็นเรื่องน่าสนใจ รถคันนี้เป็นรถที่พาแขกรับเชิญไปทำธุรกิจ และวันนั้นก็ไปอัดรายการ เป็นรถผมเอง ไม่ได้รับผู้โดยสาร ผิดตรงที่เปลี่ยนสีรถ แต่จริงๆรถคันนี้ทำขึ้นมาเพื่อถ่ายรายการเท่านั้น เรื่องที่ไปตบคนขับจักรยานยนต์คือยอมรับว่าผมทำจริงเพราะโมโห ผมคิดน้อยไปหน่อย ผมเองก็อารมณ์ร้อน คือวันนั้นเค้ามาชนแล้วก็พยายามจะขับหนีแต่ดีที่มีรถทีมงานที่ไปช่วยขวางไว้ได้ ไม่งั้นเค้าก็คงหนีไปแน่นอน ผมโมโหก็ตบที่หน้าเค้าไป จากนั้นก็คิดว่าจะไปจ่ายค่าเสียหายเค้าซ่อมรถให้ผม ผมเสียค่าปรับที่ทำร้ายร่างกายเค้า แต่ผมก็ไม่เอาความ ฝ่ายน้องเค้าก็ไม่ติดใจเอาความ เรื่องก็จบลงแล้วครับ ผมยอมรับหากใครจะมองผมในแง่ลบ เพราะผมทำจริงๆ "
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีคนไปค้นประวัติแล้วมาแฉนั้นสาเหตุมาจากการเคยบาดหมางเป็นศัตรูกับใครหรือไม่ โจ แม่สาย เผยว่า หากเป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวก็สามารถทำได้ แต่นี่เป็นเว็ปไซต์ใหญ่แล้วมาทำแบบนี้เขียนกล่าวหาว่าผมยักยอกทรัพย์อย่างนี้ตนรู้สึกว่าไม่เป็นธรรมกับตน ทำให้ตนต้องแจ้งความเอาผิดกับเว็บไซต์.... ในข้อหาหมิ่นประมาท
"ถ้าเป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนบุคคลก็ทำไปเหอะ แต่พอมาเป็นเว็บใหญ่ทำเองผมมองว่าไม่มีคุณธรรมแล้ว เค้าเขียนถึงผมว่ายักยอก คือถ้าผมทำผมก็ติดคุกนะครับ ผมก็อยากถามหน่อยแล้วคู่กรณีที่เค้าว่าผมไปยักยอกเค้าทำไมคนๆนั้นไม่เห็นออกมาพูดเลย มีแต่คนอื่นมาพูด วันนี้ก็แจ้งหมิ่นประมาทในเรื่องที่เค้าพูดไม่จริงหาว่าผมยักยอกทรับ ข้อความที่ว่า "ยักยอกทรัพย์ครับเอาของเค้ามาดื้อๆเลย เลวสุดๆ" ผมยืนยันว่าไม่เคยยักยอก
ทรัพท์ใคร ที่ผมร่ำรวยมาได้เป็นเพราะเทคนิคทางธุรกิจ เค้ากล่าวหาผมโดยใส่ชื่อผมชัดเจนชื่อจริงนามสกุลจริง ผมปรึกษาเจ้าหน้าที่ก็เข้าข่ายหมิ่นประมาท เว็บที่ผมแจ้งหมิ่นประมาทคือเว็ปไซต์เด็กดี เค้าเขียนเหมือนเป็นการประจานผม เพื่ออะไรหลักฐานก็ไม่มี ไม่เข้าใจว่าได้เค้าอะไรเหรอ ซึ่งเรื่องราวต่างๆอาจจะมีมือที่สามที่เสียผลประโยชน์ทางธุรกิจมาดิตเครดิต ซึ่งผมยังไม่รู้ว่าใคร"
ทรัพท์ใคร ที่ผมร่ำรวยมาได้เป็นเพราะเทคนิคทางธุรกิจ เค้ากล่าวหาผมโดยใส่ชื่อผมชัดเจนชื่อจริงนามสกุลจริง ผมปรึกษาเจ้าหน้าที่ก็เข้าข่ายหมิ่นประมาท เว็บที่ผมแจ้งหมิ่นประมาทคือเว็ปไซต์เด็กดี เค้าเขียนเหมือนเป็นการประจานผม เพื่ออะไรหลักฐานก็ไม่มี ไม่เข้าใจว่าได้เค้าอะไรเหรอ ซึ่งเรื่องราวต่างๆอาจจะมีมือที่สามที่เสียผลประโยชน์ทางธุรกิจมาดิตเครดิต ซึ่งผมยังไม่รู้ว่าใคร"
"ต่อประเด็นดังที่มีข่าวว่ากำลังตามจีบนางเอกสาว"ขวัญ" อุษามณี ไวทยานนท์ นั้นนักธุรกิจหนุ่มเผยว่าไม่ได้จีบส่วนตัวแล้วไม่รู้จักและไม่เคยเจอนางเอกสาวเลยสักครั้ง ซึ่งงงกับข่าวนี้มาก" น้องเค้าอาจจะเสียหาย ชอบมีคนจับคู่ให้ ส่วนตัวไม่รู้จักและไม่เคยเจอกัน ผมก็งงเหมือนกันกับข่าวนี้ กลัวน้องเค้าจะเสียหาย อยากให้น้องเข้าใจว่าพี่ไม่ใช่คนปล่อยข่าวนะ ยอมรับน้องเค้าเป็นคนสวย แต่ผมติดตามผลงานทางทีวีเท่านั้น"
.jpg)
.jpg)
เครดิต http://www.siamdara.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น